วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

ใช้คอมพิวเตอร์ +TV Tunuer มีประโยชน์มากกว่า TV จริงหรือไม่

ในวันนี้มานำเสนอเรื่องนี้อีกแล้ว...
ทำไม ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ชาวไทยไม่นิยมใช้ TV Tuner กัน...
ทั้งที่ TV Tunuer ก็มีประโยชน์มากกว่า TV อีกทั้งราคาก็ไม่แพงอีกด้วย


หลายคนที่ทำงานไหนๆก็เปิดคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คกันอยู่แล้ว
อยากดูทีวีไปด้วยก็แค่ซื้อตัว TV Tuner  มาต่อเทา่นั้นเอง

แถมเวลาใช้งานพร้อมกันได้อีกด้วย
ทำเป็นหน้าต่างเล็กๆหรือ full screen ก็ได้

ก็ไม่ต้องเปลืองไฟสองเด้งเปิด ทีวี คู่กันไปด้วย
หรือเอาไว้แก้ขัดตอน ทีวีบ้านเสีย
ตรงส่วนนี้ก็จะทำให้คุณประหยัดไฟไปในตัว
อีกทั้งบางรุ่นก็สามารถนำมาต่อเล่นเกมได้อีก



 แล้ว TV Tuner ก็ยังสามารถอัดรายการไว้ได้อีกด้วย
แต่ตรงจุดนี้ก็จะทำให้คุณเปลือง HDD
แต่ไม่เป็นไร ถ้าเน้นความบันเทิงก็ยอมได้ คริคริ


บางคนก็อาจจะบ่นว่า ภาพไม่ชัดเหมือนดูทีวี แต่ว่า TV TUNER บางรุ่น
(ขึ้นอยู่กับเสาสัญญาณ
ถ้าอยู่ตามคอนโดหรือหอพักชัดแน่นอน)
ก็สามารถดูได้กับจอขนาดใหญ่สูงกว่า HD แล้ว ภาพที่ออกมาก็จะเนียนๆ
ตัวหนังสือคมใช้ได้เลยทีเดียว
ถ้าไม่ซีเรียสอะไรมาก
ตรงจุดนี้ก็ต้องศึกษาให้ดีว่ารุ่นไหนได้ภาพออกมาเป็นอย่างไร


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าใครซื้อ ของ Dtech มาแล้วตัวไหนใช้ไม่ได้
ก็ลองเข้าไปติดตั้ง Driver กันดูก่อนได้จ้า

ถ้าไม่ได้จริงๆก็ค่อยยกไปให้ที่ศูนย์ลงให้

วันนี้เราก็มานำเสนอ TV TUNER CARD USB 2.0 (TV-332)
จากร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีคุณภาพ ราคาถูก

ต่อกับโน๊ตบุ๊คหรือ PC ได้ อัดรายการได้ 


 

 ดาวน์โหลด Driver >> NB199 : TV BOX USB 2.0 (TV-332) (winxp, win7-32bit)
PhotobucketPhotobucket
 


ดูรุ่นทั้งหมด http://www.dtech.co.th/download.php?type=4












ทีวีจูนเนอร์ สำหรับดูทีวีและอัดรายการ

จะเห็นว่าตอนนี้มีหลายยี่ห้อ ที่จะแนะนำสำหรับใช้ดูทีวีและอัดรายการได้ด้วย ก็ขอแนะนำให้ใช้แบบกล่องเชื่อมต่อภายนอก ดีกว่าใช้แบบการ์ด เพราะแบบการ์ดจะโดนระบบไฟในเครื่องรบกวนทำให้ได้ภาพที่ด้อยคุณภาพลง

ส่วนเรื่องยี่ห้อไหนดีนั้น ก็ควรดูที่ความน่าเชื่อถือของผู้จำหน่ายและการรับประกันอีกที

สำหรับข้อมูลเบื้องต้นนั้น

1.TV Tuner ที่เป็นแบบ USB จะเป็นแบบที่ต่อเข้ากับพอร์ต USB ของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ Notebook
สำหรับการใช้งานนั้นก็ต้องเปิดคอมฯหรือ notebook ด้วยจึงจะใช้งานได้ อุปกรณ์ก็จะมีลักษณะเป็นกล่องไม่ใหญ่มากหรือรูปแบบคล้ายๆ Thumb Drive ตัวโตก็ได้

ข้อดี
-บันทึกรายการที่รับชมได้
-นอกจากจะดูภาพแบบเต็มจอแล้วยังดูเป็นหน้าต่างเล็กได้ ทำให้สะดวกต่อการทำงานไปด้วย
ดูทีวีไปด้วย
-ใช้งานได้ทั้ง คอมพ์ตั้งโต๊ะและ notebook เนื่องจากเสียบเข้าพอร์ทของ USB

ข้อเสีย
-ให้ความละเอียดภาพสูงสุดเพียง 720*576 มาตรฐานดีวีดีในระบบ PAL

2.TV TUNER แบบ Standalone เป็นแบบที่ใช้ต่อกับจอคอมพ์ฯ CRT LCD โดยตรง ลักษณะเป็นกล่องเท่าฝ่ามือ เปิดใช้งานได้โดยไม่ต้องเปิดเครื่องคอมพ์เื่พื่อใช้งาน

ข้อดี
-ความละเอียดของภาพสูง บางรุ่นทำได้ถึง 1920*1200 ซึ่งสูงกว่า Full HD
-รองรับ สัดส่วน ทั้ง 4:3 และ 16:9 จอกว้าง

ข้อเสีย
-ใช้กับ notebook ไม่ได้ เพราะจอโน๊ตบุ๊คไม่สามารถเชื่อต่อกับแหล่งภายนอกเพื่อรับสัญญาณมาแสดงผลโดยไม่เปิดเครื่องได้อยู่แล้ว
-อัดรายการไม่ไ้ด้ เนื่องจากไม่ได้ต่อผ่านคอมพ์ จึงไม่สามารถใช้ hardware มาทำการจับภาำพหรือบันทึกวีดีโอ

3.TV Tuner Cards ตัวนี้ต้องเสียบเข้ากับช่อง PCIe ต้องเปิดตัวถังคอมพ์และแน่นอนใช้ได้กับเฉพาะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเท่านั้น

ทั้ง3 จำพวกนี้มีบางรุ่นสามารถรับฟังวิทยุ FM ได้ด้วย

ใครสนใจอยากได้ไปใช้ ลองเข้ามาดูกัน ที่นี่ จากร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีคุณภาพ ราคาถูก
ขอนำเสนอ  TV TUNER Box Combo DTECH-TV2810E 
                                       ต่อเข้าจอได้เลย                                                       


 

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

มาทำความรู้จักกับ Sd Card กัน+วิธีแก้ไขเมมโมรี่มีปัญหา

sd card คือ

SD card (Secure Digital Card) : SD card ย่อมาจาก Secure Digital : เป็นรูปแบบการ์ดที่เป็นหน่วยความจำแบบ non-volatile (nonvolatile memory หน่วยความจำไม่ลบเลือนหมายถึง หน่วยความจำในเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ข้อมูลในนั้นจะไม่ลบหายไป แม้ว่าจะปิดกระแสไฟแล้วก็ตาม ) เริ่มแรก SD card ได้มีบริษัทที่ร่วมกันพัฒนาของ Matsushita SanDisk และ Toshiba Secure Digital Card นั้นนิยมนำมาใช้กับอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กต่างๆ หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น digital cameras , PDAs, mobile phones, GPS receivers, and video game consoles

 

 ความจุมาตรฐานของ Secure Digital (SD)สามารถมีความจุได้ตั้งแต่ 4 MB ถึง 4 GB ยังมีรุ่นที่สามารถมีความจุสูงคือ SDHC สามารถมีความจุได้ถึง 4 GB ถึง 32 GB

 

 SD Card ในตอนแรกมีความจุตั้งแต่ 4 MB – 4 GB แต่มีการพัฒนามากให้ความจุของ SD Card มากขึ้นนั้นก็คือ SDHC(Secure Digital High Capacity) ซึ่งมีความจุมากขึ้นคือมีความจุตั้งแต่ 4 GB - 32GB ต่อมามีการพัฒนา SD Card เพิ่มขึ้นคือ SDXC ซึ่งจะมีความจุเริ่มต้นที่ 32 GB – 2 TB 


แสดงว่าตอนนี้...

ความแตกต่างของชื่อขึ้นอยู่กับความจุนั้นเอง


 

SD Card       (Secure Digital)                               : มีความจุตั้งแต่ 4 MB – 4 GB
SDHC Card (Secure Digital High Capacity)             : มีความจุตั้งแต่ 4 GB - 32GB
SDXC Card (Secure Digital eXtended Capacity)     : มีความจุตั้งแต่ 32 GB – 2 TB
 
 
สุดท้ายนี้สำหรับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่มีปัญหากับเมมโมรี่การ์ดต่างๆ 

เรานำวิีธีดีๆจากในเว็บบอร์ดมาฝากกัน
ลองไปทำดูซิว่าได้ผลมั้ย??
 
จะได้ไม่ต้องฟอร์แมตการ์ดทั้งน้ำตากันนะจ๊ะ
 
วิธีแก้
1. เข้าไปที่ ;tools ?>folder option ?> view ;แล้วติ๊ก หัวข้อ
; ;show hiddens file and folders ;แล้วคลิ๊ก ;ok
หรือ
2. ;เปิด notepad ;แล้วพิมพ์คำสั่งตามนี้
; ; ;attrib -a -r -h -s *.* /s /d
แล้วทำการเซฟเป็นชื่ออะไรก็ได้ ;เช่น ;folder.bat ;ข้อสำคัญนามสกุล
ต้องเป็น ;.bat
แล้วทำการ copy ไฟล์ไปวางลงใน mem แล้วทำการ ดับเบิ้ลคลิ๊กไฟล์
มันจะทำการแก้ folder ที่ถูกซ่อน
วิธีนี้ใช้กับฮาร์ดดิส ได้นะ วิธีใช้เหมือนกัน

Credit::klongdigital
 
 

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

ความรู้เบื้องต้นในการ เลือกซื้อ เมมโมรี่ SD CARD

SD Card เมมโมรี่ที่ตอนนี้ เป็นที่นิยมใช้งานมากที่สุด เนื่องจากขนาดที่เล็ก ราคาไม่สูง ใช้งานได้หลากหลาย ใช้ได้กับกล้องถ่ายภาพหลายยี่ห้อ รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ แถมยังมีหลายขนาด ทั้งแบบปกติ, mini SD, micro SD เพื่อให้รองรับกับอุปกรณ์
แต่ละประเภท

อะไรเป็นตัวกำหนดราคา และคุณภาพของ SD Card

โดยตัวแปรที่กำหนดราคาของ เมมโมรี่ SD ตัวแปรหลักที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของ ยี่ห้อ และชื่อชั้น ราคาที่แตกต่าง เมื่อเทียบในความจุ และความเร็วระดับเดียวกัน แต่ราคา และความน่าเชื่อถือของบริษัทต่างกัน มีผลต่ออายุการใช้งาน รวมไปถึงความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล

และนอกจากยี่ห้อ ที่เป็นตัวแบ่งระดับราคาของเมมโมรี่แล้ว เมมโมรี่ SD ยังถูกแบ่งประเภทใหญ่ๆ ตาม ระดับความจุทั้งในแบบ SD Standard Capacity (SD, มากที่สุด 16 GB), SD High Capacity (SDHC, มากที่สุด 32 GB), SD eXtended Capacity (SDXC, มากที่สุด 2 TB) โดยเมมโมรี่แต่ละระดับความจุ ยังถูกแยกด้วยความเร็วการเขียน และอ่านข้อมูล อย่าง Class 2, 4, 6, 10 ซึ่งก็จะมีความเร็วในการเขียน และอ่านข้อมูลต่างกันไป โดยเราจำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมกับงานของเรา(แน่นอนยิ่งเร็วยิ่งดี) ส่วนราคาก็จะแปรผันตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น โดยการพัฒนาของเมมโมรี่ชนิดนี้ นอกจากความจุของการ์ดที่เพิ่มขึ้น ยังพัฒนาให้ความเร็วสูงกว่าเดิม อย่างในปัจจุบัน (พ.ศ.2554) ได้มีการพัฒนาให้มี Class UHS-1 ที่สามารถเขียนอ่านข้อมูลได้เร็วกว่า Class 10 เดิม และคงมีการพัฒนาให้เกิด UHS-2 เพื่อให้รองรับเทคโนโลยีในยุคต่อๆ ไป
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจจะงงกับศัพท์เฉพาะที่กล่าวถึงในย่อหน้าที่แล้ว ว่าคำว่า Class และ x บ่งบอกอะไรบ้าง
หากท่านผู้อ่านเดินไปที่ร้านค้า เพื่อซื้อเมมโมรี่ซักตัว วิธีการเลือกซื้อเมมโมรี่ นอกจากจะดูที่ขนาดความจุที่เราต้องการแล้ว ยังจำเป็นต้องเลือกให้ขนาดความเร็วของการ์ด เหมาะสมกับการใช้งาน โดยสามารถดูได้จาก Class และ x นั่นเอง
แล้ว Class และ x ดูได้จากไหน
เลข Class/X เช่น 2, 4, 6, 10 ส่วนใหญ่จะมีอยู่ทีตัวเมมโมรี่ หรือบางยี่ห้อ จะถูกตีพิมพ์ไว้ที่กล่อง ซึ่งค่านี้บ่งบอกว่า การ์ดที่เราจะซื้อนั้น สามารถเขียนข้อมูลได้ช้าที่สุด ตามตัวเลขนั้น โดยหน่วยจะเป็น MB/s (เช่น Class 2 ก็จะมีความเร็วในการเขียนประมาณ 2 MB/s , Class 10 ก็ 10 MB/s ) โดยถ้าเทียบกับค่า x จะดูได้ตามตาราง ถ้าใครกังวลเรื่องถ่ายวีดีโอแบบ Full HD ที่ต้องใช้ความเร็วของการ์ดค่อนข้างสูง ก็ต้องดูว่าสามารถเขียนข้อมูลลงการ์ดได้ไม่ต่ำกว่า 5.5 MB/s จึงจะเพียงพอ หรือพูดง่ายๆ ให้เลือกการ์ด Class 6 ขึ้นไป บางยี่ห้อเขียนว่า Class 4 แต่สามารถถ่ายวีดีโอ Full HD ได้เพราะสามารถเขียนข้อมูลได้เร็วกว่า 4 MB/s แต่ไม่ถึง 6 MB/s นั่นเอง
 ** การบอกจำนวน x บางครั้ง บริษัทผู้ผลิตจะเขียนมาเฉพาะค่าอ่าน หรือ เขียน ที่สามารถวัดได้สูงสุดเท่านั้น หรือบางทีก็จะเป็นตามการ์ดอย่างเช่น 15 MB/s* เครื่องหมาย * ก็จะมีให้อ่านหมายเหตุว่าเอาค่ามาจากไหน ฯลฯ
 ความเร็วของ SD Card ได้ถูกพัฒนาให้เป็นระบบ UHS-1 หรือ Ultra High Speed 1 ออกมา ให้ลูกค้าเลือกใช้ ซึ่งก็คือระบบที่ออกแบบมาใหม่ เพื่อช่วยให้การ์ดสามารถส่งผ่านข้อมูลได้เร็วมากขึ้น โดยมีความเร็วในการทำงาน 100 MHz (50 MB/s) กับ 208 MHz (104 MB/s) ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นไปอีก และในอนาคตจะมี UHS-II ที่สามารถส่งข้อมูลได้เร็วถึง 312 MB/s และยังมีแนวโน้มจะพัฒนาให้ความเร็วสูงขึ้น ตามให้ทันเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละยุคสมัย และแน่นอนราคาก็ยิ่งสูงยิ่งขึ้น จนกว่าจะมีการพัฒนารุ่นที่ล้ำหน้ากว่ารุ่นล่าสุดนั่นเอง


 ภาพตัวอย่าง การ์ดใบนี้ มีเครื่องหมายบอกว่าเป็นการ์ด Class UHS-1 (เลข 1 ในตัว U) แต่ถ้ากล้องไม่รองรับ ก็จะมีการถ่ายข้อมูลขั้นต่ำที่ 10 MB/s (เลข 10 ใน วงตัว C) หรือ Class 10 ส่วน 94MB/s* หมายถึงการ์ดสามารถเขียนหรืออ่านค่าใดค่าหนึ่งได้เร็วที่สุดที่ 94 MB/s
 สุดท้าย สรุปชัดๆ ว่า จะให้ซื้อเมมโมรี่ยี่ห้อไหน ความจุเท่าใด ความเร็วแค่ไหนถึงจะคุ้มที่สุด 
ความคุ้มค่านั้นขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋า และความเหมาะสมในการใช้งานของแต่ละบุคคล แต่ถ้าทำงานแบบต้องใช้ SD CARD เป็นประจำ จะเลือกเมมโมรี่ยี่ห้อที่มีชื่อเสียง เพราะพิสูจน์มาแล้ว ว่ามีผลต่อคุณภาพและความทนทาน เลือกเมมโมรี่ที่รองรับความเร็วและเทคโนโลยีในอนาคต เพราะงานบางแบบต้องตามเทคโนโลยีให้ทัน ไม่เช่นนั้นก็ต้องซื้อเมมโมรี่ใหม่อยู่ดี ส่วนใครจะเน้นราคาถูก หรือเลือกตามระยะเวลารับประกัน อันนี้ท่านผู้อ่านคงต้องตัดสินใจเลือกเองแต่ขอเน้นย้ำสุดท้ายว่า เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานคือสิ่งที่ดีที่สุด

Credit:klongdigital
 

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

ฮาร์ดดิส 1 TB แบ่ง partition อย่างไรดี?

หากคุณมี HDD ในเครื่องลูกเดียว การแบ่ง Partition หากแบ่งแค่ 2 อาจจะมีปัญหาการย้ายไฟล์ไปมา
อาจจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ให้ C :100Gb D:400 GB E:400GB

หรือแล้วแต่การใช้งานของคุณ
เช่นแบ่ง C ไว้ลงวินโดว์ อาจจะแบ่งไว้ 70-80 GB เผื่อสำหรับสร้างจุด System Restore ไว้หลายๆจุด เวลาไวรัสลงก็คืนค่าระบบไปวันก่อนที่จะถูกไวรัส และเผื่อโปรแกรมที่บังคับให้ลงเฉพาะ Drive C ด้วยจะได้ไม่ลำบากและอีกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เหลือน้อย เพราะถ้ามันเหลือน้อย fragment จะเยอะทำให้ทำงานช้า, แบ่ง D ไว้ลงโปรแกรมสามัญและอื่นๆบ้าง ซัก 100 Gb
E ไว้เก็บข้อมูล หนัง เพลง และที่สำคัญๆอีก อยู่ที่ความต้องการอีกที

หากแบ่งไว้หลายๆส่วน ข้อดีก็คือถ้าเสียก็จะเสียเป็นส่วนไปไม่เสียทั้งหมด

เมื่อเห็นข้อดีข้อเสียของมันแล้วเราก็จะใช้เนื้อที่ของมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ควรเก็บข้อมูลที่สำคัญไว้นอกเครื่องเสมอด้วยนะจ๊ะ

เช็คราคา HDD จากร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีคุณภาพ ราคาถูก




วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556

DDR3(1333) 2GB. KingBox 'Aserv' แรมเจ้านี้เค้ามีดี

DDR3(1333) 2GB. kingbox aserv ไหม้เคลมได้ เสียเปลี่ยนตัวใหม่ตลอดอายุประกัน
ใครเคยใช้แรมตัวนี้บ้าง แค่เห็นสโลแกนก็น่าสนใจแล้ว

ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก
 -ตัวแรมเป็นสีแดงแรงฤทธิ์ สีสันไม่เหมือนยี่ห้ออื่น 
 -แค่เสียบที่เมนบอร์ดก็มีไฟติดแล้ว เท่ห์จริงอะำไรจริง

ประกัน L/T ยังไม่พอ ยังจัดตัวใหม่ให้เลยด้วย  คุ้มมากกก

กล้ารับประกันขนาดนี้ ก็อย่าลืมลองสอยมาใช้ดูด้วยนะว่าเจ๋งจริงหรือเปล่า

สนใจเข้ามาดูได้ ที่นี่ จากร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีคุณภาพ ราคาถูก






วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

OEM INTEL G41 + CPU Xeon 3.60GHz. ใช้ทำอะไร?

OEM INTEL G41 + CPU Xeon 3.60GHz. เป็นเมนบอร์ดที่แถม CPU ติดมาด้วย ใช้ทำอะไร
เราพยายามรวบรวมคำตอบมาให้แล้ว

-ซึ่ง Xeon 3.6 GHzตัวนี้ ประสิทธิภาพเหนือกว่า Pentium 4
-ทำงานได้ดีความอึดค่อนข้างอึดทีเดียว
-ความเร็วคุ้มราคา
-เหมาะสำหรับเอามาทำ Server แยกเน็ตแยกเกมส์ โหลดบิท
-หรือทำงานพื้นๆในสำนักงาน ทำงานที่ไม่เกี่ยวกับระบบ Sound และ Graphic
-แต่ถ้าไปเน้นการ์ดจอล่ะก็ graphic ก็จะดีขึ้นมาอีกระดับ ใส่แรม DDR3/DDR2 ใส่ได้สูงสุด 2GB 2 Channels
-สำหรับ driver เสียงก็ลองลงของ Yamaha ดูนะจ๊ะ เพราะก็เห็นว่ามีท่านนึงลง Win XP SP3 แล้วลง Driver เสียงของ Yamaha ผ่าน


สำหรับราคาถือว่าถูกมากทีเดียว แค่ราคากับประกันก็คุ้มแล้ว
ซึ่งตัวนี้ประกันนานด้วย 3 ปีเลยทีเดียว

รายละเอียด M/B :: http://ark.intel.com/products/36528/82G41-Graphics-and-Memory-Controller-Hub

CPU-Z
ID : 1845496
Submitted by PC-201105090008 | Tue, 31 May 2011 15:43:32 +0200 | Validated by CPU-Z 1.56
Intel Xeon
Windows XP Professional SP3 (Build 2600)
CPU Arch : 1 CPU - 1 Cores - 2 Threads
CPU PSN : Intel Xeon CPU 3.60GHz
CPU EXT : MMX, SSE (1, 2, 3), EM64T
CPUID : F.4.1 / Extended : F.4
CPU Cache : L1 : 12 / 16 KB - L2 : 1024 KB
Core : Nocona (90 nm) / Stepping : E0
Freq : 3600.31 MHz (200.02 * 18)
MB Brand : To be filled by O.E.M.
MB Model : To be filled by O.E.M.
NB : Intel G41 rev A3
SB : Intel 82801GB (ICH7/R) rev A1
GPU Type : Intel(R) G41 Express Chipset
DirectX Version : 9.0c
RAM : 2048 MB DDR3 Single Channel
RAM Speed : 400 MHz (1:2) @ 6-6-6-15
Slot 1 : 2048MB (10700)
Slot 1 Manufacturer : Kingston
cpuz















































ใครสนใจอยากเอาไปลองก็เข้าไปดูรายละเอียดกันได้ ที่นี่  จากร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มีคุณภาพ ราคาถูก

OEM Intel 662 Driver

วันนี้มีตัว Driver เมนบอร์ด Oem intel 662 socket 478 ที่ใช้กับ DDR2 และยังใช้ CPU PENTIUM 4 ได้มาฝากกัน

  -http://www.intel.com/p/en_US/support/detect/graphics

หรือโหลด ตัวนี้ 


-http://downloadcenter.intel.com/SearchResult.aspx?lang=eng&ProductFamily=Graphics&ProductLine=Desktop+graphics+controllers&ProductProduct=Intel%C2%AE+G31+Express+Chipset

รายละเอียดสำหรับ OEM ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer 
 หมายถึง การรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดยใช้การผลิตของเรารวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตด้วย มักจะเป็นโรงงานเปิดใหม่ ๆ หรือโรงงานที่ไม่เน้นการสร้างแบรนด์ของตนเอง และโรงงานที่ไม่มีความชำนาญในการออกแบบผลิตภัณฑ์ OEM ก็คือการรับจ้างผลิตสินค้าในตราผลิตภัณฑ์อื่น โดยมีการดูแลในเรื่องสินค้า คุณภาพ และบรรจุภัณฑ์ โดยทางลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดจำหน่าย ดังนั้นคุณภาพที่ได้จะเท่าเทียมกับบริษัทผู้จ้างผลิต 
Mainboard > Intel 478 (VGA On) OEM INTEL 662 (1 แต้ม) 


วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

รู้ลึก รู้จริง เรื่อง microSD card และเทคนิคการเลือกซื้อ

หน่วยความจำสำหรับโทรศัพท์มือถือ

microSD cardเนื่องจากหน่วยความจำที่มากับโทรศัพท์ทั่วไป หรือสมาร์ทโฟน ส่วนใหญ่จะมีจำนวนไม่มากนัก ดังนั้น การเพิ่มหน่วยความจำภายนอกให้โทรศัพท์ของเรา ก็จะทำให้เรามีพื้นที่ในการเก็บรูปภาพ หรือแม้กระทั่งวีดีโอได้มากขึ้น บางคนถึงกับเก็บข้อมูลต่างๆ บนโทรศัพท์เลยทีเดียว และโทรศัพท์ส่วนใหญ่ก็รองรับหน่วยความจำที่ชือว่า microSD card
บทความนี้จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อ microSD card ได้ถูกต้อง

MicroSD card คืออะไร

อุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูล แบบ nand Flash Memory ที่มีการนำไปใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์หลายอย่าง เช่น กล้องดิจิตอล โทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งแท็บเล็ต สาเหตสำคัญอีกอย่างที่ทำให้ MicroSD เป็นที่นิยม คือ ราคาที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับหน่วยความจำอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการพัฒนา MicroSD ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของความเร็วในการบันทึก ซึ่งมีการแบ่งออกเป็น Class

Class กับความเร็วในการบันทึกข้อมูล

  • Class 2 โอนถ่ายข้อมูลขั้นต่ำได้ที่ความเร็ว 2 MB / วินาที
  • Class 4 โอนถ่ายข้อมูลขั้นต่ำได้ที่ความเร็ว 4 MB / วินาที
  • Class 6 โอนถ่ายข้อมูลขั้นต่ำได้ที่ความเร็ว 6 MB / วินาที
  • Class 10 โอนถ่ายข้อมูลขั้นต่ำได้ที่ความเร็ว 10 MB / วินาที
จะเห็นได้ชัดว่า MicroSD แต่ละ Class จะมีความเร็วต่างกัน ดังนั้น ราคาก็จะแตกต่างกันด้วย?
SD/SDHC, MicroSD/MicroSDHC ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยความจำแบบ MLC (Multi-level Cell) (อ่านเพิ่มเติมได้จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Flash_memory) ซึ่งจะสามารถเขียนข้อมูลลงได้เพียง 5,000 – 10,000 ครั้งเท่านั้น หลังจากนั้นจะไม่สามารถเขียนข้อมูลลงในนั้นได้ นั้นหมายความว่า จะไม่สามารถเซฟอะไรได้เลย

หลักการเลือกซื้อ SD/SDHC, MicroSD/MicroSDHC

1.  เลือกความจุที่คุณต้องการ
สำหรับ  SD/SDHC : 2GB, 4GB, 8GB, 16GB, 32GB
สำหรับ micro SD/SDHC : 2GB, 4GB, 8GB, 16GB
หากเอาไว้สำหรับจดชื่อที่อยู่ บันทึกอะไรเล็กๆ น้อยๆ แค่ 2GB Class 2-4 ก็เพียงพอ
หากเอาไว้สำหรับบันทึกรูปและเพลง แนะนำที่ 4GB – 8GB Class 6
หากเอาไว้สำหรับบันทึกรูป, เพลง และ วีดีโอ แนะนำ 16GB – 32GB Class 6-10 ถ้าเป็นวีดีโอแบบ FULL HD แนะนำอย่างยิ่งที่ class 10
2.  ตรวจสอบดูว่า ยี่ห้อสินค้า หรือ ผู้ผลิต มีรายชื่ออยู่ใน List รึเปล่า โดยเช็คได้ที่เว็บนี้  https://www.sdcard.org/about_sda/member_companies/ 
ถ้าสินค้าที่คุณกำลังเลือกซื้อ ไม่มีรายชื่ออยู่ใน List “ห้ามซื้อ เด็ดขาด” เนื่องจากการผลิตในคุณภาพต่ำ, ลดระดับหน่วยความจำลง หรือความเร็วในการรับ – ส่ง ข้อมูลทำได้ช้า บางทีอาจจะทำความเสียหายให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกของคุณได้
3. เช็ค “Condition” ให้เลือกเป็น New เท่านั้น ถามเป็น Used นะ เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าการเขียนข้อมูลมันมีได้จำกัด เผื่อซื้อๆ มาแล้วใช้ไปได้ไม่กี่ครั้งก็ใช้ต่อไม่ได้ มันจะไม่คุ้มเอา
4.ตรวจสอบ Packaging ให้ดี ทางที่ดีไม่ควรซื้อแบบ  Used หรือ Open-Boxed แนะนำให้ซื้อแบบ Sealed pack ดีกว่า หากมีเครื่องหมายการันตีว่ารับประกันสินค้าด้วยยิ่งดีมาก ส่วนมากเดี๋ยวนี้ก็รับประกันกันแบบ Lifetime เลยทีเดียว 
เพียงเท่านี้เราก็สามารถกรอง SD/SDHC, MicroSD/MicroSDHC ปลอมๆ ได้บ้างแล้ว 
ที่สำคัญควรมีการ backup ข้อมูลในการ์ดไว้เสมอ เพราะเราก็อาจจะเจอเหตุการณ์ที่ว่า เมมเสีย เซฟไม่เข้า มีปัญหา เข้ามาได้เหมือนกัน อย่างที่บอกไปว่าความสามารถในการเขียนข้อมูลของมันจะลงได้เพียง 5,000 – 10,000 ครั้งเท่านั้น แม้ประกันจะเป็นแบบ L/T หากข้อมูลสำคัญสูญหายไปก็ไม่มีความหมาย ด้วยรักและเป็นห่วงจาก Bestbuycom